สุปรียา กณิกนันต์ กรรมการบริหาร บริษัท POMOHOUSE ผู้ทำตลาด POMO KidsWatch กล่าวว่า จากประสบการณ์จริงที่เกือบจะต้องพลัดหลงกับลูกสาวในขณะเดินทางท่องเที่ยว จึงต้องการเครื่องมือที่จะมาช่วยดูแลลูก จึงได้มีการรวบรวมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านซอฟต์แวร์สำหรับกลุ่มเด็ก และครอบครัวโดยเฉพาะ เพื่อช่วยกันคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันปัญหาเด็กหายจากต้นเหตุ ด้วยงบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท และความร่วมมือกับทีมงานที่ไต้หวันพัฒนาขึ้นเป็น “POMO KidsWatch” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเด็ก และผู้ปกครองยุคใหม่ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกๆ ได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถป้องกันปัญหาการติดสมาร์ทโฟนของเด็กๆ ก่อนวัยอันควรอีกด้วย โดยคาดว่าในปีแรกจะมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ประมาณ 80% ณัฐพล ตันติไพบูลย์ กรรมการบริษัท POMOHOUSE กล่าวว่า จุดเด่นของ POMO KidsWatch คือ จะเป็นทั้งโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ติดตามตัวในเครื่องเดียวกัน ซึ่งทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน POMO Kids ซึ่งถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็ก และความพอดีในการใช้งานเป็นสำคัญ | |||
คุณสมบัติที่น่าสนใจของ POMO Kidswatch คือ 1.ทั้งรับ และโทร.ได้ในเครื่องเดียว (Voice Calling) โดยสามารถกำหนดเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวให้สามารถโทร.หา POMO Kidswatch ได้สูงสุด 8 เบอร์ ในขณะที่นาฬิกาสามารถกดโทร.ออกไปยังเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวที่ตั้งค่าไว้ได้สูงสุด 3 เบอร์ ตามปุ่มบนนาฬิกา 2.ระบบ GPS ติดตามนาฬิกา (Smart Locator) ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันระหว่าง GPS และระบบ 3G ดังนั้น ผู้ปกครองสามารถค้นหาสถานที่ของนาฬิกา และยังสามารถค้นหาสถานที่ของเด็กได้ทีละหลายคนพร้อมกัน 3.พื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดเอง (Safe Zone) เริ่มต้นใช้งานฟังก์ชัน Safezone ได้หลังจากที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน POMO Kids และเชื่อมต่อสัญญาณผ่าน network 3G ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้กำหนดพื้นที่ปลอดภัยของเด็กให้เหมาะสมต่อกิจกรรมต่างๆ เช่น พื้นที่ในบริเวณโรงเรียน การทำกิจกรรมนอกชั้นเรียน ร้านหนังสือ หรือแม้กระทั่งอยู่ที่บ้าน เมื่อเด็กออกนอกพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้ก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ และทราบทันทีว่าขณะนี้เด็กกำลังอยู่ในส่วนไหนของแผนที่ 4.รายงานอุบัติเหตุได้ทันท่วงที ด้วย Accident Report กรณีที่เด็กได้รับอุบัติเหตุหรือหกล้ม ก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กได้อย่างทันท่วงที 5.เซ็นเซอร์ตรวจจับนาฬิกาหลุด (Watch fall off alarm) กรณีที่นาฬิกาถูกถอดออกจากไปจากข้อมือของเด็ก หรือหลุดโดยบังเอิญจากการทำกิจกรรม พ่อแม่จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ และสามารถให้ความความช่วยเหลือได้ทันทีในกรณีที่เด็กถูกลักพาตัว | |||
8.ปุ่ม SOS เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน (Intelligent Emergency) อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อเด็กต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนแค่เพียงกดปุ่ม “SOS” นาฬิกาจะทำการโทร.ออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ตามลำดับตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ ที่ตั้งค่าไว้ หลังจากโทร.ออกเรียบร้อยแล้ว นาฬิกาจะทำการอัปเดตสถานที่ของนาฬิกาในขณะนั้นทุก 60 วินาที ผ่านระบบ SMS มายังโทรศัพท์มือถือทุกเบอร์เพื่อไม่ให้พลาดความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก 9.เครื่องนับก้าว (Pedometer) สามารถตรวจสอบการออกกำลังกายของเด็กๆ จากจำนวนการก้าวเดินของเด็กๆ ในแต่ละวัน ผ่านฟีเจอร์ Pedometer และ 10.กันยุงก็ได้หายห่วง (Mosquito repellent) POMO สามารถป้องกันยุงได้ด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงพิเศษที่ปล่อยออกมาที่ 16-20 KHg ในส่วนการทำตลาดจำหน่ายที่ราคาเรือนละ 3,990 บาท สามารถดาวน์โหลดได้ 2 ระบบ คือ iOS Version 7 ขึ้นไป และ Android 4.0 ice cream sandwich ขึ้นไป ปัจจุบันวางจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง TG Fone, Power Buy และตัวแทนจัดจำหน่ายในกรุงเทพฯ รวมมากกว่า 100 แห่ง หรือเว็บไซต์ pomohouse.com, iTrueMart.com อีกทั้งขณะนี้บริษัทได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลมอบสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิกบัตร The One Card โดยสามารถนำคะแนนมาแลกรับส่วนลดในการซื้อ POMO KidsWatch ได้อีกด้วย Company Related Link : POMO Kidswatch ที่มา: http://manager.co.th/ |
วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558
“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น