นายริคคาร์โด บาซิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่ลาซาด้ามีอัตราการเติบโตมากที่สุดจาก 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบไปด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 87% หรือเพิ่มถึง 6 เท่า ในช่วง 1ปี 6 เดือนที่ผ่านมา (กย.2556-ม.ค.2558) ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเกิดจากการใช้งานสื่อดิจิตอลที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการเติบโตของการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบันคนไทยใช้งานเฟซบุ๊กกว่า 14 ล้านคน ลาซาด้ามีแฟนเพจประมาณ 2 ล้านคน ส่วนผู้ใช้งานไลน์ในไทยมีอยู่ประมาณ 22 ล้านคน ในจำนวนนี้มีผู้ติดตามลาซาด้าในไลน์ถึง 6 ล้านคน เช่นเดียวกับอินสตราแกรมที่มีการใช้งานกว่า 1.5 ล้านคนแล้ว นอกจากนี้ในส่วนของการเข้าชมเว็บไซต์ของลาซาด้านั้นมีอัตราการเข้าชมถึง 20 ล้านครั้งในช่วง 1 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา
“ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้นที่ลาซาด้ามีการเติบโต ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีการเติบโตเช่นเดียวกัน โดยเป็นผลมาจากการที่ลาซาด้าได้ทำการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าเพื่อให้แบรนด์และพ่อค้าคนกลางเข้าถึงลูกค้าจำนวน 550 ล้านคนใน 6 ประเทศได้อย่างง่ายดายผ่านช่องทางการค้าปลีกเพียงช่องทางเดียว และที่สำคัญคือ การเป็นแพลตฟอร์มการขายที่เน้นมือถือ และ 50% ของลูกค้านิยมเข้าชมผ่านมือถือ”
นายริคคาร์โด กล่าวว่า อีกปัจจัยของความสำเร็จคือการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้วยการมีโกดังสินค้า 8 แห่ง และมีการส่งสินค้าแบบเอ็กซ์เพรสครอบคลุม 50 จุดหลักใน 80 เมือง และการเป็นพันธมิตรกับบริษัทขนส่ง 60 รายทั่วทั้งภูมิภาค เนื่องจากในบางประเทศนั้น มีระบบการขนส่งที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการส่งสินค้าเท่าใดนัก นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการสินค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บสินค้าคงคลัง การเปลี่ยนถ่ายสินค้า การเป็นศูนย์กลางสำหรับร้านค้า และการจัดเติมสินค้า เป็นต้น
สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทยนั้น ขณะนี้ครบ 3 ปีแล้ว ลาซาด้าจึงได้จัดแคมเปญลดราคาครั้งใหญ่ด้วยการจับมือกับพันธมิตรทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์นานาชาติ โดยจะมีส่วนลดพิเศษให้กับสินค้าในหลากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ไลฟ์สไตล์ และแฟชัน และมีโปรโมชันพิเศษในแต่ละช่วงเวลา ด้วยสินค้ากว่า 7,000 รายการ รวมไปถึงโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ชอบปิ้งผ่านลาซาด้าแอปพลิเคชันทั้งระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส โดยโปรโมชันจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24-26 มีนาคมนี้
ข้อมูลจาก: http://manager.co.th/CyberBIZ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น